ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (22 มี.ค.) มีมติเห็นชอบโครงการบ้านประ ชารัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มอบหมายธนาคารอาคารสงเคราะห ์ (ธอส.) ธนาค...
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้
(22 มี.ค.) มีมติเห็นชอบโครงการบ้านประ
ชารัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มอบหมายธนาคารอาคารสงเคราะห
์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน และกรุงไทยปล่อยสินเชื่อ 30,000 ล้านบาท ให้เอกชนและการเคหะฯ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย กับอีก 40,000 ล้านบาท ให้ประชาชนกู้ซื้อและซ่อมแซ
มที่อยู่อาศัย คาดขายบ้านค้างสตอกได้ 20,000 ยูนิตทั่วประเทศ
ผู้ที่มีสิทธิ์กู้
...เงินในโครงการบ้านประชารัฐ ต้องเป็นผู้มีรายได้น้อยทั้งที่เป็นรายได้ประจำซึ่งรวมถึงข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หรือผู้มีรายได้ไม่แน่นอน หรืออาชีพอิสระที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน ยกเว้นกรณีซ่อมแซม และ/หรือต่อเติมที่อยู่อาศัย โดยระยะเวลาเงินกู้ไม่เกิน 30 ปี อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษสำหรับกรณีวงเงินสินเชื่อเพื่อซื้อ เช่าซื้อ ก่อสร้าง ราคาไม่เกิน 700,000 บาทต่อหน่วย และวงเงินสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมและหรือต่อเติมที่อยู่อาศัย วงเงินไม่เกิน 500,000 บาทต่อหน่วย กับอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนสำหรับกรณีวงเงินสินเชื่อเพื่อซื้อ เช่าซื้อ ก่อสร้างที่อยู่อาศัย ราคามากกว่า 700,000 บาท แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาทต่อหน่วย
สำหรับสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ที่จะสนับสนุนสินเชื่อให้เอกชนผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการเคหะแห่งชาตินั้น มีวงเงินสินเชื่อรวม 30,000 ล้านบาท โดยเอกชนจะต้องรับภาระค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ร้อยละ 2 ของราคาที่อยู่อาศัย และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองร้อยละ 1 ของมูลค่าจำนอง เป็นระยะเวลา 2 ปี และรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนกลางปีที่ 1 รวมทั้งให้ส่วนลดพิเศษไม่น้อยกว่าร้อยละ 2 จากราคาขายสุทธิหลังหักส่วนลดปกติด้วย
สำนักข่าวไทยรายงานว่า กระทรวงการคลังคาดว่าการดำเนินโครงการบ้านประชารัฐจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ และคาดว่าจะมีประชาชนได้รับประโยชน์ประมาณ 40,000 – 50,000 ราย ส่วนจะมีการขยายวงเงินในอนาคตหรือไม่ยังไม่สามารถประเมินได้ โดยประเมินว่าที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท มีอยู่ในสตอก พร้อมซื้อขายประมาณ 20,000 ยูนิตทั่วประเทศ
