Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE
{fbt_classic_header}

บทความที่ได้รับความนิยม

โฆษกศาลเผยอัตราใหม่ ‘ขังแทนค่าปรับ’ มีผลบังคับใช้แล้ว จากเดิม 200 เป็น 500 บาท/วัน

เมื่อวันที่ 9 เมษายน นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 25) พ.ศ.2559 ที่ได้ประก...

เมื่อวันที่ 9 เมษายน นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 25) พ.ศ.2559 ที่ได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้วในวันที่ 7 เมษายน 2559 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา โดยสาระสำคัญ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีการแก้ไขอัตราเงินในการกักขัง แทนค่าปรับจาก 200 บาท/วัน เป็น 500 บาท/วัน และห้ามกักขังเกินกำหนด 1 ปี เว้นแต่ในกรณีที่ศาลพิพากษาให้ปรับตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไปจะสั่งกักขังแทนค่าปรับเกินกว่า 1 ปีได้แต่ไม่เกิน 2 ปี และที่สำคัญ ในบทเฉพาะกาลมาตรา 10 กำหนดให้นำหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปใช้บังคับแก่ผู้ที่ถูกกักขังแทนค่าปรับอยู่ ในวันที่พ.ร.บ.นี้บังคับใช้ด้วย และเมื่อคำนวณระยะเวลาการกักขังแทนค่าปรับตามอัตราใหม่แล้วปรากฏว่าผู้นั้นถูกกักขังมาเกินกำหนด 1 ปีแล้วให้ปล่อยตัวทันที ดังนั้นในวันที่ 8 เมษายนนี้ ศาลชั้นต้น ต้องนำหมายกักขังแทนค่าปรับที่ออกไว้ก่อนวันดังกล่าวซึ่งผู้ต้องโทษยังถูกกักขังอยู่ มาคำนวณหาจำนวนวันที่ผู้ต้องโทษ จะต้องถูกกักขังแทนค่าปรับโดยใช้อัตราใหม่ คือ 500 บาท/วัน
ผลลัพธ์ที่ได้ คือ จำนวนวันทั้งหมดที่ผู้ต้องโทษจะต้องถูกกักขัง และเมื่อนับถึงวันที่ 8 เมษายน 2559 ผู้ต้องโทษรายใดถูกกักขังมาแล้วเกินกว่า หรือครบจำนวนวันที่คำนวณได้แล้ว ก็ต้องออกหมายปล่อยผู้นั้นทันที ส่วนรายใดที่ยังกักขังไม่ครบ ก็ต้องออกหมายกักขังใหม่โดยแก้ไขจำนวนวันที่ต้องกักขัง ให้ตรงกับที่คำนวณได้ใหม่ และในกรณีที่ศาลพิพากษาไม่ถึง 200,000 บาท หากผู้ต้องโทษ ถูกกักขังมาเกินกำหนด 1 ปีแล้วต้องปล่อยตัวไปทันที
โดยสรุป บทเฉพาะกาล มาตรา 10 มีผลย้อนหลังในทางที่เป็นคุณแก่ผู้ต้องโทษที่ถูกกักขังแทนค่าปรับอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยระยะเวลาที่ผู้นั้นถูกกักขังผ่านมาแล้วจะต้องคิดคำนวณหักค่าปรับในอัตรา 500 บาท/วันด้วย