เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีดีเอสไอตรวจสอบรถยนต์ของพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ ...
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีดีเอสไอตรวจสอบรถยนต์ของพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ว่า ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ พนักงานสอบสวนในส่วนของสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ของบริษัท จากัวร์ ประเทศไทย ร่วมเดินทางไปตรวจสอบรถยนต์ คันดังกล่าว ที่วัดไผ่ล้อม โดยจะตรวจสอบหมายเลขเครื่องยนต์ตัวถัง ว่าเป็นรถยนต์รุ่นใด ยี่ห้ออะไรกันแน่ เป็นการตรวจที่ละเอียดกว่าที่ผ่านมา ส่วนประเด็นข้อสงสัยว่า หากรถไม่ถูกต้องแล้วยื่นขอจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้อย่างไร ตนอยากให้ทุกฝ่ายใจเย็นรอผลการตรวจสอบก่อนทุกอย่างจะมีคำตอบไม่ต้องรีบร้อน ทุกอย่างมีขั้นตอนชัดเจน
ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคดีรถยนต์จดประกอบเลี่ยงภาษี เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 29 ก.พ.นี้ จะมีการประชุมร่วมกับอธิบดีดีเอสไอและคณะพนักงานสอบสวน เพื่อกำหนดชุดปฏิบัติการเพื่อเข้าตรวจสอบรถยนต์ของหลวงพี่น้ำฝน รวมทั้งการนัดหมาย บริษัท จากัวร์ ประเทศไทย เพื่อขอให้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบรถจดประกอบของหลวงพี่น้ำฝน ในวันที่ 2 มี.ค.นี้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่วัดได้ประสานว่า รถไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อสงสัยว่าทำไมดีเอสไอต้องตรวจซ้ำ ในรอบนี้ เนื่องจากการตรวจครั้งแรกยังไม่แล้วเสร็จ เป็นการตรวจทางกายภาพ ว่ามีการถอดออกหรือประกอบใหม่หรือไม่อย่างไร แต่ครั้งนี้จะเป็นการตรวจสอบตามแนวทางการสืบสวนที่พบข้อมูลเพิ่มเติม เพราะพนักงานสอบสวนพบเอกสารบางอย่างที่ไม่ตรงกันของรถยนต์คันดังกล่าว ในหลายประเด็น เช่น การนำเข้าตัวถังเครื่อง แจ้งว่า เป็นรถยนต์ ยี่ห้อจากัวร์ แต่พอยื่นนำเข้าเพื่อเป็นรถจดประกอบ และเสียภาษี กับกรมสรรพสามิต เป็นยี่ห้อแพนเธอร์ และขอจดทะเบียนเป็นจากัวร์ ดังนั้นคงต้องสอบถามให้ชัดเจนว่าใครเป็นนำเข้ามาและหลวงพี่ได้มาอย่างไร ดังนั้นการตรวจสอบครั้งนี้จะลึกและลงรายละเอียดมากกว่าครั้งแรก
“ที่ผ่านมาดีเอสไอ ไม่เคยบอกว่ารถยนต์คันดังกล่าวไม่ผิด หรือบอกว่าถูก แต่ครั้งนั้นดีเอสไอ แจ้งไปแค่ว่ารถยนต์ของหลวงพี่เป็นรถยน์จดประกอบจากชิ้นส่วนโบราณ เป็นรถยนต์จดประกอบจริง และหากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะขอให้นำรถยนต์กลับมาตรวจใหม่ นี้คือข้อเท็จจริง” พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าว
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวต่อว่า ดีเอสไอได้สอบถามทางบริษัท จากัวร์ฯ ในตอนแรก แต่ไม่พบข้อมูลว่ารถดังกล่าว และจากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญ ก็ให้ข้อมูลว่าเป็นยี่ห้อแพนเธอร์ ไม่ใช่ยี่ห้อจากัวร์ ทั้งสองแบบใกล้เคียงกันมาก ดังนั้นต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจน
ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคดีรถยนต์จดประกอบเลี่ยงภาษี เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 29 ก.พ.นี้ จะมีการประชุมร่วมกับอธิบดีดีเอสไอและคณะพนักงานสอบสวน เพื่อกำหนดชุดปฏิบัติการเพื่อเข้าตรวจสอบรถยนต์ของหลวงพี่น้ำฝน รวมทั้งการนัดหมาย บริษัท จากัวร์ ประเทศไทย เพื่อขอให้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบรถจดประกอบของหลวงพี่น้ำฝน ในวันที่ 2 มี.ค.นี้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่วัดได้ประสานว่า รถไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อสงสัยว่าทำไมดีเอสไอต้องตรวจซ้ำ ในรอบนี้ เนื่องจากการตรวจครั้งแรกยังไม่แล้วเสร็จ เป็นการตรวจทางกายภาพ ว่ามีการถอดออกหรือประกอบใหม่หรือไม่อย่างไร แต่ครั้งนี้จะเป็นการตรวจสอบตามแนวทางการสืบสวนที่พบข้อมูลเพิ่มเติม เพราะพนักงานสอบสวนพบเอกสารบางอย่างที่ไม่ตรงกันของรถยนต์คันดังกล่าว ในหลายประเด็น เช่น การนำเข้าตัวถังเครื่อง แจ้งว่า เป็นรถยนต์ ยี่ห้อจากัวร์ แต่พอยื่นนำเข้าเพื่อเป็นรถจดประกอบ และเสียภาษี กับกรมสรรพสามิต เป็นยี่ห้อแพนเธอร์ และขอจดทะเบียนเป็นจากัวร์ ดังนั้นคงต้องสอบถามให้ชัดเจนว่าใครเป็นนำเข้ามาและหลวงพี่ได้มาอย่างไร ดังนั้นการตรวจสอบครั้งนี้จะลึกและลงรายละเอียดมากกว่าครั้งแรก
“ที่ผ่านมาดีเอสไอ ไม่เคยบอกว่ารถยนต์คันดังกล่าวไม่ผิด หรือบอกว่าถูก แต่ครั้งนั้นดีเอสไอ แจ้งไปแค่ว่ารถยนต์ของหลวงพี่เป็นรถยน์จดประกอบจากชิ้นส่วนโบราณ เป็นรถยนต์จดประกอบจริง และหากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะขอให้นำรถยนต์กลับมาตรวจใหม่ นี้คือข้อเท็จจริง” พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าว
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวต่อว่า ดีเอสไอได้สอบถามทางบริษัท จากัวร์ฯ ในตอนแรก แต่ไม่พบข้อมูลว่ารถดังกล่าว และจากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญ ก็ให้ข้อมูลว่าเป็นยี่ห้อแพนเธอร์ ไม่ใช่ยี่ห้อจากัวร์ ทั้งสองแบบใกล้เคียงกันมาก ดังนั้นต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจน
ข่าวจาก: มติชนออนไลน์