Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE
{fbt_classic_header}

บทความที่ได้รับความนิยม

บัณฑูร ล่ำซำตำหนิรัฐบาลก่อนๆทำเศรษฐกิจสะสมจน“ฝีแตก”ในรัฐบาลปัจจุบัน

ประธานธนาคารกสิกรไทยชี้รัฐบาลชุดปัจจุบันต้องเข้ามาแก้ปัญหาที่ตัวเองไม่ได้สร้างไว้ ตำหนิรัฐบาลผ่านๆมาสนุกกับการมีอำนาจ ละเลยแก้ปัญหาแรงงา...


ประธานธนาคารกสิกรไทยชี้รัฐบาลชุดปัจจุบันต้องเข้ามาแก้ปัญหาที่ตัวเองไม่ได้สร้างไว้ ตำหนิรัฐบาลผ่านๆมาสนุกกับการมีอำนาจ ละเลยแก้ปัญหาแรงงาน ประมง IUU การบินไทย จึงกลายเป็นตัวฉุดรั้งเศรษฐกิจถดถอย

เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2559 นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เวลานี้มีเพียงเศรษฐกิจของไม่กี่ประเทศที่ยังฟ้าใสเท่านั้น ส่วนประเทศที่เหลือตกอยู่ในภาวะฟ้ามืดโดยเฉพาะจีนเห็นชัดเจนว่าเศรษฐกิจทรุดลง ทำให้ประเทศอื่นๆทรุดหมด ซึ่งจีนก็มุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศตัวเองก่อน
ขณะที่ประเทศไทย ก็จะเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้เข้ามาแก้ปัญหาอย่างจริงจังและพยายามใช้ทุกมาตรการ เพื่อดูแลไม่ให้ถดถอย และมีการทำควบคู่ไปกับด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ที่พยามดึงต่างประเทศเข้ามาร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย  ดังนั้นภาคเอกชนไทยก็ต้องร่วมมือมาลงทุนด้วย
นายบัณฑูรกล่าวว่ายิ่งภาวะปัจจุบันที่เกิดปัญหาชาวสวนยางประท้วงก็เป็นเพราะไม่สามารถทำมาหากินได้แล้ว เกิดจากราคาสินค้าเกษตรทั่วโลกตกต่ำ ภาคเกษตรกรขายสินค้าราคาถูกก็ไม่สามารถสู้ต้นทุนที่สูง ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจไทย สั่งสมมาจากหลายๆ รัฐบาลก่อนที่มาจากการเลือกตั้ง มีปัญหาทั้งเรื่องข้าวที่ทำให้เสียหายระดับหนึ่งไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องแรงงานข้ามชาติ  การทำผิดประมง IUU การบินของไทยที่เกือบถูกใบแดงจนเกือบถูกห้ามบิน ทั้งๆ ที่ปัญหาเหล่านี้รัฐบาลชุดก่อนๆ ทำผิดกติกากันมานาน ทั้งที่มีมาตรฐานสากล-บรรทัดฐานกำหนดไว้อยู่แล้ว แต่รัฐบาลเหล่านั้นก็สนุกกับการมีอำนาจ โดยละเลยการแก้ปัญหาเหล่านี้ จึงกลายเป็นตัวฉุดรั้งเศรษฐกิจถดถอย 
นายบัณฑูรวิจารณ์ว่าอาการฝีแตกต่างๆ จึงเกิดในรัฐบาลชุดนี้ เมื่อเข้ามาบริหารประเทศจึงต้องมาแก้ปัญหาเก่าๆ ที่ตัวเองไม่ได้ทำและต้องแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างด้านสินค้าเกษตรที่เกิดภาวะราคาตกต่ำ เพื่อให้เกษตรกรเหล่านี้มีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่วิธีการเข้าไปอุดหนุนราคาสินค้าเกษตรอย่างเดียว มิเช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาการเรียกร้องเหมือนข้าว ยาง กันอยู่  การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างก็ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหาเหล่านี้ และหากไม่แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านี้ ก็จะเกิดปัญหาที่ลุกลามที่จะนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจในอนาคตได้
กลายเป็นปัญหาปากท้องประชาชน ที่รัฐบาลก็ต้องเข้ามาดูแลเพราะคนระดับล่างจำนวนมากในประเทศไม่สามารถทำงานหารายได้พอกินได้ คนจนลงไปอีกทำให้รัฐบาลชุดนี้ต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ต่อไป รัฐบาลปะซ้ายปะขวา(ปัญหาต่างๆ) ก็ใช้ทุกมาตรการ เปิดทุกก๊อก แต่ก็ยังทำไม่ได้ดั่งใจ ของพวกนี้ต้องใช้เวลาเพราะเป็นโรคใหญ่โรคหนักต้องใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ ซึ่งยาพวกนี้ก็ต้องไปแก้ที่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญคือปากท้องประชาชนนายบัณฑูรกล่าว
ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าระบบธนาคารพาณิชยมีส่วนในการช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ เพราะเป็นส่วนที่ต้องนำเงินออมมาใช้ปล่อยสินเชื่อในระบบเศรษฐกิจ เพื่อให้เงินในระบบงอกเงย แต่การปล่อยสินเชื่อเป็นเรื่องละเอียดอ่อน  ถ้าธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อภาคธุรกิจก็ไม่ฟื้น แต่ถ้าปล่อยสินเชื่อไปแล้วธุรกิจยังไม่ดีก็จะพากันลงเหว จึงเป็นประเด็นว่าธนาคารจะปล่อยสินเชื่ออย่างไรให้มีความหมายทำให้เงินออมไม่เสียหายจึงเป็นปัญหาของธนาคารพาณิชย์และเป็นความท้าทายทั้งของธนาคารพาณิชย์และภาคเอกชน
ดังนั้น เอกชนและรัฐบาลต้องร่วมมือกันและเอาผลประโยชน์โดยรวมของประเทศเป็นตัวตั้งและเอกชนก็ต้องขานรับอย่างจริงจังเพื่อช่วยกันฟื้นเศรษฐกิจ


ข้อมูลจาก : thaitribune.org